มะเร็งเต้านม เป็นหนึ่งในโรคที่ผู้หญิงทั้งโลก รวมทั้งในไทย พบเจออยู่บ่อย แล้วก็ยังคงเป็นหัวข้อหลักทั้งยังด้านสาธารณสุข การดูแลรักษา และก็การดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ตัวแนวทางการรักษาโรคมะเร็งเต้านมในปี 2568 ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีด้านการแพทย์ หนทางรักษาผู้เจ็บป่วยเฉพาะตัว (personalized medicine) แล้วก็การดูแลร่วมของหลายๆสหสาขาวิชาชีพ ทางพวกนี้คาดหวังให้ไม่เพียงแค่ "หายจากโรค" แม้กระนั้นยังลดการกลับเป็นซ้ำ ปรับแก้ประสิทธิภาพการดูแลและรักษา รวมทั้งพิจารณาถึงผลข้างเคียงที่มีต่อร่างกายและจิตใจของผู้เจ็บป่วยด้วย
(https://static.wixstatic.com/media/060db7_0cab51c08d7e4460a6a03239784c987b~mv2.png/v1/fill/w_740,h_419,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/060db7_0cab51c08d7e4460a6a03239784c987b~mv2.png)
บทความนี้จะพาไปตรวจสอบแนวทางการรักษาโรคโรคมะเร็งเต้านมที่นำสมัยในปี 2568 — ตั้งแต่การวินิจฉัยแบ่งจำพวกย่อย (subtype) การเลือกแนวทางผ่าตัดหรือรักษาเสริม เคล็ดวิธีใหม่ๆอย่างฉายแสงภายในห้องผ่าตัด (IORT) การใช้ยาเคมีบำบัดรักษา ยาต้านทานฮอร์โมน ยามุ่งเป้า แล้วก็ภูมิคุ้มกันบำบัดรักษา รวมทั้งการดูแลคุณภาพชีวิตหลังการรักษา เพื่อผู้อ่านรู้เรื่องแนวทางต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้าใจง่าย รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้หรือมีความรู้เพื่อการช่วยส่งเสริมผู้ที่มีการเกี่ยวข้องได้
การวิเคราะห์และก็จัดชนิดและประเภทชนิดของมะเร็ง (Subtype)
ก่อนการเลือกวิถีทางรักษาอะไรก็ตามจำเป็นจะต้องตรวจชิ้นเนื้อมะเร็ง และกระทำการย้อมหรือทดลองทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน (ER) ตัวรับโปรเจสเตอโรน (PR) โปรตีน HER2 รวมทั้งตัวชี้วัดการเติบโตของเซลล์ได้แก่ Ki‑67 เพราะแต่ละชนิดมีความประพฤติโรคและก็การโต้ตอบต่อการรักษาที่แตกต่างกัน เป็นต้นว่า
- Luminal A — มักจะมีตัวรับฮอร์โมน ER/PR เป็นบวก, HER2 เป็นลบ, และ Ki-67 ต่ำ
- Luminal B — ER/PR เป็นบวก แต่ว่า Ki-67 สูง หรือ HER2 บางทีอาจเป็นบวก
- HER2‑Positive — ตัวรับ HER2 เป็นบวก ซึ่งจึงควรใช้ยาที่มุ่งเป้า HER2 ร่วมด้วย
- Triple‑Negative (TNBC) — ไม่มีตัวรับ ER, PR หรือ HER2 ซึ่งมักตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดรักษาและภูมิคุ้มกันมากยิ่งกว่า
จุดสำคัญของ subtype อยู่ที่การเลือกกระบวนการรักษาที่สมควร เช่น หากเป็น Luminal จะใช้ยาต้านทานฮอร์โมนมีหน้าที่มากมาย หากเป็น HER2+ จะใช้ยามุ่งเป้า และหากเป็น Triple‑Negative บางทีอาจใช้เคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัด
✨ การผ่าตัดแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่การตัด: รักษาเต้านมได้ ไม่จำเป็นที่ต้องเศร้าใจ
เมื่อก่อนเวลาได้ยินว่าจำเป็นต้อง "ผ่าตัดเต้านม" คนจำนวนไม่น้อยมักเข้าใจว่าต้องตัดเต้านมทั้งยังข้างออกเสมอ ซึ่งทำให้มีการเกิดความกลัวรวมทั้งเสียความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเองไปเยอะ แต่ว่าในยุคนี้ทางแปรไปมาก หมอจะพยายามสงวนเต้านมไว้ให้ได้มากที่สุด โดยดูว่าขนาดก้อนมะเร็งอยู่ที่ไหน ใหญ่ขนาดไหน มีการกระจัดกระจายหรือยัง หากอยู่ในตำแหน่งที่สามารถตัดเฉพาะก้อนออกได้ ก็จะเลือกใช้วิธีนี้ก่อน
เคล็ดวิธีใหม่ๆสำหรับในการผ่าตัด เป็นต้นว่า การผ่าตัดแบบแผลเล็ก แอบซ่อนรอยแผลไว้ด้านข้างหรือใต้ราวนม การผ่าตัดร่วมกับศัลยกรรมตกแต่งโดยทันที ทำให้คนไข้ข้างหลังผ่าตัดยังคงรู้สึกมั่นอกมั่นใจได้อย่างเดิม รักษามะเร็งเต้านม (https://www.namarak.com/post/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1-2568) ไม่จำเป็นต้องคอยกระทั่งรักษาหายแล้วค่อยทำศัลยกรรมเสริมในวันหลัง
นอกนั้นยังมีการประเมินต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ว่ามีการกระจายหรือเปล่า โดยใช้แนวทาง Sentinel Node Biopsy ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดอาการแขนบวมในคราวหลัง เป็นอีกหนึ่งวิถีทางที่ช่วยทำให้การดูแลรักษาไม่ทิ้งรอยให้ร่างกายและจิตใจมากเกินความจำเป็น
(https://static.wixstatic.com/media/060db7_f64254ee03d5491892454d2c25fd2f8b~mv2.png/v1/fill/w_289,h_162,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/060db7_f64254ee03d5491892454d2c25fd2f8b~mv2.png)
✨ เปล่งแสงแบบใหม่ IORT เป็นอย่างไร เพราะอะไรถึง "ยิงแสงสว่าง" ตั้งแต่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด
ในอดีตกาล ข้างหลังผ่าตัดเต้านมเสร็จแล้ว ผู้เจ็บป่วยต้องกลับมาฉายแสงอีกบ่อยมากในตอนยาวนานหลายสัปดาห์ บางบุคคลก็ลำบากกับการเดินทาง หรือมีผลใกล้กันทางผิวหนังจากการฉายรังสีแบบเดิมๆแต่แล้วพอถึงปี 2568 นี้ มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า IORT (Intraoperative Radiation Therapy) ซึ่งเป็นการฉายแสงให้เสร็จในระหว่างการผ่าตัดเลย
แพทย์จะนำอุปกรณ์เฉพาะเข้าไปในบริเวณที่ตัดก้อนมะเร็งออก แล้วฉายรังสีจุดนั้นในทันที ก่อนจะเย็บแผลปิด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งที่บางทีอาจหลงเหลือจะกลับมาเติบโตอีกที และก็ยังลดโอกาสจะต้องฉายแสงซ้ำข้างหลังผ่าตัดอีกด้วย
IORT เหมาะกับคนป่วยบางกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น ขนาดเล็ก ไม่มีผู้กระทำระจายไปต่อมน้ำเหลือง แล้วก็จำเป็นต้องเข้าขั้นที่แน่ๆที่แพทย์จะประเมิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนไข้ไม่ต้องมารับการฉายแสงหลายหน และยังช่วยทำให้จบการดูแลและรักษาเร็วขึ้นอีกด้วย
✨ เคมีบรรเทากับฮอร์โมนบรรเทาในปี 2568: ไม่ใช่แค่ยา แต่ว่าคือศาสตร์ส่วนบุคคล
ผู้คนจำนวนมากกลัวเคมีบำบัดรักษา เพราะภาพจำของผมหล่น คลื่นไส้ เมื่อยล้า แต่ว่าจริงๆแล้วเคมีบำบัดรักษาในยุคสมัยใหม่ มิได้ใช้กับทุกคน และไม่ได้ยิ่งนักเท่าที่เคย ยาเคมีบำบัดรักษา มะเร็งเต้านม ในปี 2568 ถูกออกแบบให้เลือกใช้เฉพาะในกลุ่มที่จำเป็นจะต้อง และยังสามารถตรวจยีนหรือระดับการเสี่ยงเพื่อประเมินว่าผู้ป่วยคนนี้จำเป็นต้องใช้เคมีบำบัดหรือไม่
ในรายที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เคมีบำบัดรักษา แพทย์อาจเลือกให้ ยาต้านฮอร์โมน แทน ซึ่งเหมาะสมกับกรุ๊ปที่มีตัวรับฮอร์โมน ดังเช่นว่า ER หรือ PR บวก โดยยาจะปฏิบัติหน้าที่ยั้งการกระตุ้นของฮอร์โมนในร่างกายที่อาจก่อให้เซลล์ของโรคมะเร็งเติบโต ยาชนิดนี้จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่องนาน 5‑10 ปี แล้วแต่แผนการรักษา
ปัจจุบันยังมีการใช้แบบร่วม ตัวอย่างเช่น เคมีบรรเทาก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดก้อน (neoadjuvant therapy) และก็หลังจากนั้นจึงค่อยผ่าตัดตามด้วยยาต้านฮอร์โมนอีกครั้ง เพื่อให้การรักษาครอบคลุมมากที่สุด
✨ ยามุ่งเป้าและภูมิต้านทานบำบัด: มือสังหารโรคมะเร็งที่เลือกจุดหมายได้ตรงจุด
พวกเรากำลังอยู่ในสมัยที่การรักษามะเร็งไม่ได้ "ปูพรมยิง" แบบคราวก่อน แต่เปลี่ยนเป็นการใช้ยาระบุไปที่จุดมุ่งหมาย ยามุ่งจุดมุ่งหมาย (Targeted therapy) เช่น ยาที่ใช้กับผู้เจ็บป่วยกลุ่ม HER2+ จะไปจับกับโปรตีน HER2 บนผิวเซลล์ของมะเร็งโดยเฉพาะ ช่วยหยุดการแบ่งตัวของเซลล์โดยไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกายเท่าไรนัก
ส่วน ภูมิต้านทานบรรเทา (Immunotherapy) เริ่มมีหน้าที่มากขึ้นในกรุ๊ปโรคมะเร็งประเภท Triple Negative ที่ไม่มีฮอร์โมนใดให้ใช้ยาแบบเดิมๆได้ การใช้ยากระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้มาต่อสู้กับเซลล์มะเร็งจึงเป็นช่องทางที่น่าดึงดูด เป็นต้นว่า ยากลุ่ม checkpoint inhibitor ที่เริ่มมีงานศึกษาวิจัยในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ รักษามะเร็งเต้านม และใช้ร่วมกับเคมีบรรเทาในบางครั้งบางคราว
แม้ยากลุ่มนี้จะยังแพงสูง และเข้าถึงได้ยากในบางพื้นที่ แต่แนวโน้มเป็นภาครัฐรวมทั้งโรงหมอหลายแห่งเริ่มสนับสนุนให้ยากลุ่มนี้อยู่ในสิทธิ์รับรองสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
✨ คุณภาพชีวิตข้างหลังการรักษา: หายแล้ว ดำรงชีวิตแม้กระทั่งดียิ่งขึ้นได้จริง
การดูแลและรักษาบางทีอาจผ่านพ้นไปแล้ว แต่ชีวิตยังจำเป็นต้องเดินต่อ ผู้คนจำนวนมากหลังรักษาหายจากโรคมะเร็งเต้านม อาจรู้สึกยังคลุมเคลือ ร่างกายอ่อนแอ หรือเกิดภาวะสอดแทรกบางสิ่ง ดังเช่น แขนบวมจากการตัดต่อมน้ำเหลือง ลักษณะการเจ็บแผล หรือปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางจิตใจ ได้แก่ ความกลัวว่าจะกลับมาเป็นอีก
การดูแลข้างหลังการดูแลรักษาจึงสำคัญไม่แพ้ช่วงหวานใจษา คนเจ็บควรจะมีกลุ่มแพทย์ กายภาพบำบัด และนักจิตวิทยารอดูแล บางบุคคลบางทีอาจเข้าโปรแกรมฟื้นฟูแบบครบวงจรที่มีทั้งยังโภชนาการ การออกกำลังกายแบบส่วนบุคคล รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ตัวเอง
กำลังใจจากครอบครัวและก็คนที่อยู่รอบข้างสำคัญมาก บางบุคคลอาจไม่ได้อยากต้องการคำปลอบประโลมใจมากมาย แต่อยากได้พื้นที่ในการใช้ชีวิตอย่างธรรมดาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
✨ การตรวจติดตามและก็คุ้มครองป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
แม้ว่าจะหายแล้ว แต่ว่าหมอก็ยังต้องติดตามอาการคนไข้ตลอด เพราะเหตุว่าโรคมะเร็งสามารถกลับมาได้ข้างใน 5‑10 ปี หรือแม้แต่หลังจากนั้น การพิสูจน์เลือด ภาพถ่ายแมมโมแกรม หรือตรวจด้วยอัลตราซาวนด์เป็นระยะก็เลยสำคัญมาก
หมอจะกำหนดตารางตรวจตามอาการโรคที่เคยเป็น การเสี่ยง รวมทั้งระยะเวลาข้างหลังการดูแลและรักษา โดยส่วนใหญ่จะตรวจทุก 3‑6 เดือนในตอน 2 ปีแรก แล้วค่อยห่างขึ้นเมื่อไม่มีสัญญาณผิดปกติ
ยิ่งไปกว่านี้ หญิงทั่วๆไปที่ยังไม่เคยเป็นก็ควรจะเริ่มตรวจคัดกรองตามอายุที่เหมาะสม เช่น 40 ปีขึ้นไป หากมีประวัติครอบครัวควรปรึกษาแพทย์เพื่อเริ่มเร็วกว่านั้น
✨ ความมุ่งหวังใหม่ของเพศหญิงไทย: รัฐจำเป็นต้องช่วยอะไร? ประชาชนควรเริ่มตรงไหน?
ความปรารถนาของผู้เจ็บป่วยมะเร็งเต้านมในไทยเป็นการเข้าถึงการวิเคราะห์และก็การดูแลรักษาที่เร็วที่สุดและก็ตรงจุดที่สุด ซึ่งหมายถึงอีกทั้งการมีวัสดุที่นำสมัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยาที่จำเป็นจะต้องสามารถใช้ได้จริงโดยไม่ติดเรื่องงบประมาณ
รัฐบาลควรสนับสนุนให้มีการกระจัดกระจายเครื่องแมมโมแกรมไปสู่โรงหมอในระดับอำเภอหรือจังหวัดมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มจำนวนแพทย์เฉพาะทาง สนับสนุนงบประมาณสำหรับยาราคาแพง แล้วก็เปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงเข้าถึงความรู้ความเข้าใจเรื่องการตรวจเต้านมด้วยตนเองตั้งแต่ตอนวัยรุ่น
ส่วนในระดับพลเมือง การเริ่มต้นดูแลตนเอง ตั้งแต่การคลำเต้านมเองเดือนละครั้ง ไปตรวจสุขภาพประจำปี หรือพูดคุยเรื่องมะเร็งเต้านมกับคนในครอบครัวให้แปลงเป็นเรื่องธรรมดา ก็เป็นจุดเริ่มแรกของการลดจำนวนคนป่วยที่เจอโรคในระยะลุกลามได้แล้ว
(https://static.wixstatic.com/media/060db7_383f89f0fcbe4ef5ae102a33b18694f8~mv2.png/v1/fill/w_454,h_454,fp_0.50_0.50,q_95,enc_avif,quality_auto/060db7_383f89f0fcbe4ef5ae102a33b18694f8~mv2.webp)
ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวไกล โรคมะเร็งเต้านมไม่ใช่จุดจบของความปรารถนาอีกต่อไป มันเป็นบทใหม่ของชีวิต ที่ถ้าพวกเรารู้จักมันดีพอเพียง เตรียมความพร้อมให้ดี รักษามะเร็งเต้านม พอเพียง และก็มีระบบระเบียบสาธารณสุขที่ดีรอสนับสนุน เราก็สามารถดำรงชีวิตต่อได้อย่างเต็มเปี่ยม มีคุณภาพ และเชื่อมั่น
ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.namarak.com/post/แนวทางการรักษาโรคมะเร็งเต้านม-2568 (https://www.namarak.com/post/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1-2568)
อย่ารอให้ถึงวันที่สาย เริ่มตรวจคัด มะเร็งเต้านม กรองวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ปลอดภัยกว่า ❤️